There is nothing
either good or bad,
but thinking makes it so.
ไม่มีสิ่งไหนที่ดีหรือแย่ มีแต่ความคิดเราเท่านั้นที่ทำให้มันเป็นไป
either good or bad,
but thinking makes it so.
ไม่มีสิ่งไหนที่ดีหรือแย่ มีแต่ความคิดเราเท่านั้นที่ทำให้มันเป็นไป
หนึ่งเดือนในนิวซีแลนด์ของฉันจบลงแล้ว
ฉันกลับถึงไทยพร้อมกับเพื่อน ๆ เราลากันด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากตอนมา
เราเปลี่ยนจากการถ่ายรูปหมู่ตอนมา เป็นการกอดกันในตอนกลับ
ไม่มีใครร้องไห้เสียน้ำตาเพราะเราต่างรู้ว่าการติดต่อกันง่ายเพียงปลายนิ้วกด
ครอบครัวเพื่อน ๆ ต่างมารอรับเหมือนตอนมารอส่ง
ฉันรอจนเพื่อน ๆ แยกย้ายกันหมดก่อน
แล้วจึงมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อดี จากสิบกว่าคนเหลือหนึ่งคน
เสียงคุยเซ็งแซ่เมื่อห้านาทีก่อนกลายเป็นความเงียบท่ามกลางผู้คนนับร้อยนับพันในสนามบินสุวรรณภูมิ
ครั้งนี้ฉันรู้วิธีจัดการกับก้อนความรู้สึกนี่แล้ว
เบอร์คุ้นเคยถูกกดบนมือถือ
ตามด้วยปุ่มโทรออก
“แม่ เราถึงไทยละน้า คิดถึงจังเลย....”
...
“เสาวลักษณ์เดี๋ยวเขียนรายงานส่งกระทรวงด้วยนะ”
“เสาวลักษณ์ เป็นอย่างไรบ้าง
กลับมาแล้วดูเปลี่ยนไปเป็นนักเรียนนอกเลยดูสิ”
“นิวซีแลนด์สนุกมั้ย เล่าให้ฟังมั่ง”
“ขอของฝากหน่อย...”
ชีวิตของฉันหลังจากไปแลกเปลี่ยนก็ไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิม
ฉันยังไปโรงเรียนท่องตำราทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ และเรียนพิเศษในวันเสาร์และอาทิตย์
และไปโรงเรียนวันจันทร์ถึงศุกร์ และเรียนพิเศษเสาร์อาทิตย์ และ... และ....
(อ่านซ้ำอีกยี่สิบรอบ)
แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือมุมมองความคิดของฉันต่อสิ่งต่าง
ๆ ต่อการเรียน ต่อความรักกุ๊กกิ๊กวัยรุ่น ต่อความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเพื่อน
ฉันและครอบครัว
ความคิดของฉันกว้างขึ้นและโลกของฉันไม่ได้หยุดอยู่ในโรงเรียนและตัวเลขในใบเกรดอีกต่อไป
ฉันสนุกกับการลองทำอะไรใหม่ ๆ
เริ่มมองหางานอดิเรก เริ่มต้นเรียนภาษาที่สามและสี่
เริ่มสนุกกับการอ่านหนังสือที่นอกเหนือจากนิยายรักหวานเลี่ยน
เริ่มสนุกกับการใช้ชีวิต
และนี่คือสิ่งที่ได้จากการยอมและเงินสี่หมื่นและผานรถแทรกเตอร์ของพ่อ
ขอบคุณระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เปลี่ยนฉันไปทั้งชีวิต
ฉันกล้าพูดไว้ในที่นี้เลยว่า
เวลาหนึ่งเดือนในนิวซีแลนด์เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่วัยที่เริ่มเป็นผู้ใหญ่
เริ่มเรียนรู้ชีวิต
เลือกที่จะเชื่อความคิดของตัวเองและพร้อมจะยอมรับผลของมันไม่ว่าจะผิดหรือถูก
เลือกที่จะเสียบางอย่างเพื่อให้ได้บางอย่าง
ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่ร่วมเดินทางและเติบโตไปด้วยกัน
ขอบคุณอาจารย์กรรณิการ์
ปัญญาที่แนะนำให้ฉันได้รู้จักกับโครงการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ขอบคุณอาจารย์สมถวิล
บุญไชยที่คอยดูแล และไม่โกรธแม้จะมารู้ภายหลังว่าฉันหนีเที่ยวกันตั้งแต่อาทิตย์แรก
ขอบคุณ Maria
และ Rutherford college สำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ดี
ๆ ขอบคุณครอบครัว Hemingway ที่ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่องตลอดหนึ่งเดือน
และขอบคุณ หลิวอุดม ประธานหลิว
เสาวลักษณ์ เชื้อคำ ตัวฉันในวันนั้นที่ตัดสินใจเลือกสอบในวันนั้น
และขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาให้เรียนรู้และเข้าใจ
...เรียนรู้และเข้าใจว่า
บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ดีหรือแย่
ไม่มีอะไรที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตไปมากกว่ามุมมองความคิดของเราเอง
สุดท้ายนี้ฉันอยากฝากถึงทุกคนที่มีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยน
ขอให้เลือกโอกาสนั้นไว้ไม่ว่าจะเป็นเวลาน้อยหรือมาก เพราะการ getting
yourself out of comfort zone ทำให้ความคิดเราเติบโตไปได้มากอย่างที่แม้แต่ตัวคุณเองก็จะต้องตกใจ
Ka kite ano
(จนกว่าจะพบกันใหม่.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น